ความเร็วของเว็บไซต์ มีผลมากๆ และเป็น 1 ใน Factor ของการทำ SEO สนใจอยากรู้ว่ามีกี่ข้อ ลองไปดูลิ้งนี้นะครับ [200 Factor ในการทำ SEO] ยิ่งถ้าเว็บไซต์ของเรามีความเร็วดีมากในการโหลด และสามารถดูได้จากมือถือ Google จะยิ่งชอบมากๆเลยครับและมีหลายวิธีเพิ่มความเร็วเว็บไซต์ของคุณและปรับปรุงเวลาในการโหลดนะครับ มาดูกันว่า 8 วิธีเพิ่มความเร็วให้กับเว็บไซต์มีอะไรบ้าง
เช็ค Speed เว็บไซต์ได้จากที่ไหน?
ก่อนจะไปเพิ่มความเร็วให้กับเว็บไซต์ เราต้องไปเช็คก่อนนะครับว่าเว็บเราอยู่ในเกณไหน มีความเร็วเท่าไหร่ ซึ่งจะมีเว็บไซต์ที่เราสามารถเข้าไปทดสอบความเร็วของเว็บไซต์ของเราได้ วันนี้มีแนะนำ 2 เว็บไซต์ที่นิยมใช้กันบ่อยๆนะครับ
- Google Page Speed Website : อันนี้ของ Google โดยตรงเลยครับ พร้อมทั้งบอกวิธีแก้ให้เรียบร้อยอีกต่างหาก
- GTmetrix : อันนี้เป็นเว็บเช็ค speed เว็บไซต์แบบตัดเกรดให้เลยว่าเว็บเราได้เกรดไหน ต้องปรับปรุงตรงไหนบ้าง
8 วิธีเพิ่มความเร็วเว็บไซต์
- ปรับขนาดไฟล์รูปภาพ: รูปภาพขนาดใหญ่อาจทำให้เว็บไซต์ของคุณช้าลงได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องเพิ่มประสิทธิภาพก่อนที่จะอัปโหลดไปยังไซต์ของคุณ คุณสามารถใช้เครื่องมืออย่าง Photoshop หรือเครื่องมือออนไลน์อย่าง TinyPNG เพื่อลดขนาดไฟล์ของภาพโดยไม่สูญเสียคุณภาพ
Link : TinyPNG - ใช้เครือข่ายการจัดส่งเนื้อหา (CDN): CDN เป็นเครือข่ายของเซิร์ฟเวอร์ที่กระจายอยู่ทั่วโลก เมื่อใช้ CDN เนื้อหาเว็บไซต์ของคุณจะถูกส่งจากเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้กับผู้ใช้มากที่สุด ซึ่งสามารถปรับปรุงเวลาในการโหลดได้อย่างมาก
- Minimize HTTP requests: ทุกครั้งที่ผู้ใช้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ เบราว์เซอร์ของพวกเขาจะส่งคำขอ HTTP ไปยังเซิร์ฟเวอร์ของคุณเพื่อดึงไฟล์ที่จำเป็น การลดจำนวนคำขอ HTTP ให้น้อยที่สุดสามารถช่วยให้เว็บไซต์ของคุณเร็วขึ้นได้ คุณสามารถทำได้โดยใช้ CSS sprites รวมไฟล์ และใช้เครื่องมืออย่าง Minify เพื่อลดขนาดไฟล์ของไฟล์ CSS และ JavaScript
- Browser caching: การแคชของเบราว์เซอร์ช่วยให้เบราว์เซอร์จัดเก็บไฟล์บางไฟล์ในคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดทุกครั้งที่ผู้ใช้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ สิ่งนี้สามารถปรับปรุงเวลาในการโหลดสำหรับผู้เยี่ยมชมซ้ำได้อย่างมาก
- ใช้ปลั๊กอินแคช: หากคุณใช้ระบบจัดการเนื้อหา เช่น WordPress คุณสามารถใช้ปลั๊กอินแคชเพื่อเพิ่มความเร็วเว็บไซต์ของคุณ ปลั๊กอินการแคช เช่น W3 Total Cache หรือ WP Super Cache จะเก็บสำเนาหน้าเว็บไซต์ของคุณไว้ในแคช จึงสามารถให้บริการแก่ผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องสร้างโดยเซิร์ฟเวอร์
- เพิ่มประสิทธิภาพโค้ดของคุณ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโค้ดของคุณสะอาด เป็นระเบียบ และไม่มีข้อผิดพลาด ซึ่งจะช่วยให้เบราว์เซอร์โหลดหน้าเว็บได้เร็วขึ้น และยังช่วยให้คุณแก้ไขจุดบกพร่องได้อย่างง่ายดาย
- อัปเกรดโฮสติ้งของคุณ: หากคุณยังคงใช้โฮสติ้งที่ใช้ร่วมกัน ให้พิจารณาอัปเกรดเป็น VPS หรือเซิร์ฟเวอร์เฉพาะ วิธีนี้จะทำให้คุณมีทรัพยากรมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วให้กับเว็บไซต์ของคุณได้
- ตรวจสอบและทดสอบเว็บไซต์ของคุณเป็นประจำ: การทดสอบความเร็วและประสิทธิภาพของเว็บไซต์ของคุณเป็นประจำสามารถช่วยให้คุณระบุส่วนที่ต้องปรับปรุงได้ มีเครื่องมือหลายอย่างที่พร้อมใช้งาน เช่น Google PageSpeed Insights, GTmetrix และ Pingdom ที่สามารถช่วยคุณทดสอบความเร็วและประสิทธิภาพของเว็บไซต์ของคุณ
สรุปวิธีเพิ่ม Speed ให้กับเว็บไซต์
ด้วยการใช้เทคนิคเหล่านี้ คุณสามารถปรับปรุงเวลาในการโหลดเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมาก และมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นสำหรับผู้เยี่ยมชมของคุณ การดันอันดับของการทำ SEO ก็จะทำได้อย่างง่ายมากขึ้น
ถ้าไม่อยากทำ SEO เอง ทางเรามีบริการรับทำ SEO ให้กับทุกธุรกิจ ราคาเป็นกันเอง สามารถเข้ามาปรึกษาได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ